ตอนที่ 6 friends with benefit ไม่ใช่แค่เพื่อน (ภาพในความทรงจำ )

ตอนที่ 6 friends with benefit ไม่ใช่แค่เพื่อน (ภาพในความทรงจำ )

      หลังจากที่กลับมาจากเที่ยวฉันก็ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตเล็กน้อยเพราะเริ่มเบื่อการที่จะสังสรรค์ เฮฮา ปาร์ตี้ ทั้งหลายแล้ว เพราไปก็รู้สึกไม่ดี ภาพในความทรงจำ ที่ทำให้วนเวียนคิดถึงแต่เรื่องของฉันกับเขา เลยอยากกลับมาสนใจ ดูแลตัวเองให้ดีกว่าเดิม บ้าทำแต่งาน ไม่ค่อยได้ติดต่ออะไรกับใคร แต่ก็มีบ้างที่มีนัดทานข้าวกับเพื่อน เช่นวันนี้ มีนัดทานข้าวกับกรีนที่ห้างสรรพสินค้า เราจะเจอกันเวลาว่างๆ แล้วชอบพากันไปกินนั่นนี้ เพราะฉันทำงานเกี่ยวกับของกิน เลยต้องกินแล้วก็เก็บข้อมูล 

แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

‘อยู่ไหน ออกมาหรือยัง’

‘กำลังออก แกละ’

‘เสร็จแล้วกำลังออก เจอกันนะ… ’

‘โอเค’

     พูดจบฉันก็เตรียมตัวออกไป วันนี้ฉันใส่ชุดเดรสสีขาวสั้น ผมยาวปะบ่าแล้ว วันนี้ก็แต่งหน้าเบาๆ แค่ทาแป้ง เขียนคิ้ว ทาลิปก๊อต ออกแนวใสๆ หวานๆ ลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง เผื่อจะมีแรงจูงใจเขียนงาน แล้วก็เปลี่ยนมุมมองตัวเองบ้าง วันนี้เรานัดจะกินอาหารเกาหลีร้านประจำที่เราชอบกินกัน ฉันก็มาถึงร้านกันพอดี

“เร็วๆ เลยหิวมากกกกกก”

“เออ รู้แล้ว ช้าเพราะใครละ”

“ค่ะ เพราะดิฉันเองค่ะ คุณของขวัญ”

“จ้ะ สั่งสิกินไร”

“เอา……”

“ทวนรายการนะคะ มี……นะคะ รายการถูกต้องนะคะ รอสักครู่นะคะ”

   วันเราเมนู ที่เราสั่งมากิน เป็น หมูหมักชุดพิเศษของทางร้าน  หมูสามชั้น  ซุปกิมจิ  ข้าวเขย่า(เป็นข้าวที่มีวัตถุดิบหลายๆอย่างจัดเรียงมาแล้วปิดฝาเขย่า) ต๊อกบกกีเผ็ด แล้วที่ดีอย่างของร้านนี้คือเติมผักได้ไม่อั้นเลย ระหว่างของเริ่มมาเสิร์ฟเรื่อยๆ  เตาเริ่มร้อนแล้วเราก็ทยอยลง เนื้อไปย่างจนเต็มเตา ยิ่งเวลาเคลียดเรื่องงานเจอของกินไป ทำให้รู้สึก มีความสุขขึ้นเยอะเลย ถ้าเรายิ่งเปลี่ยนมุมความคิดได้ไวเท่าไหร่ยิ่งดีต่อเรา

กริ๊ง  เสียงโทรเข้าจากปลาย

‘อยู่ไหน…..’

‘กินข้าวอยู่กับเพื่อน มีอะไรหรือเปล่า’

‘เสาร์นี้ เพื่อนนัดรวมตัวกัน’

‘อืมได้ กี่โมงก็โทรมาบอกนะ’

‘โอเค…..’

    หลังจากวางสายเราก็กินอาหารกันต่อจนหมด แล้วก็เดินช็อป เดินดูของไปเรื่อย จนพอใจเราก็แยกย้ายกันกลับ เพราะบ้านฉันกับกรีน อยู่ไกลกัน นานๆทีเราจะเจอกัน ชอบพากันไปหาอะไรกิน เจอกันเพราะแค่เรื่องกิน แต่มันคือเรื่องจริงเลย

     ระหว่างทางที่ต้องกลับ เพลงที่เปิดฟังก็ได้วนไปยังเพลงหนึ่ง ที่มันแทงใจดำมาก ไม่ว่าจะช่วงไหนของเพลงก็ เป็นเพลงที่เหมือนตอกย้ำความรู้สึกฉันอยู่ตลอดเวลา เรามีเรื่องหนึ่งที่ได้คุยกัน ก่อนที่เราจะไม่ได้ติดต่อกันมมาสักระยะ มันเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน ที่เป็นปัญหาใหญ่พอตัว ฉันเลยถามเขาว่า

‘เราจะเอายังไงดีกับเรื่องนี้ มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้ไหม’

‘เข้าใจนะ ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน เราไม่ได้รักกัน แล้วอีกหลายเหตุผลที่ มึงเองก็น่าจะรู้ว่าทำไมเราถึงต้องเป็นแบบนี้’

‘อืมก็เข้าใจแหละ ค่อยว่ากันแล้วกัน’

    หลังจากที่ตอนนั้นเรามีปัญหากัน เราก็คุยกันแค่ธุระ เขาคอยย้ำตัวเองและย้ำฉันทางอ้อมเสมอ ว่าเราสองคนไม่มีทาง ที่จะรักกันได้ เพราะอะไรนะหรอ เป็นเพราะฉันเป็นแฟนเก่าของเพื่อนมีนไง แต่จะมีใครสักกี่คนหรอที่จะรู้ว่าระหว่างฉันกับเขานั้นมันรู้สึกมานานก่อนที่จะได้คบกับแฟนคนนั้นอีก หลังจากที่เลิกกันไปเป็นปีๆ ฉันกับมีนก็ได้มีการเริ่มกับมาคุยกัน แต่ความรู้สึกของฉันมันไม่ใช่แค่เพื่อนมาตั้งแต่แรกแล้วใครจะรู้ เรามาไกลขนาดนี้ แต่กลับมาเจอทางตัน รู้ทั้งรู้ มันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะอยากให้มันเป็นหรอ ไม่มีใครอยากที่จะต้องมาเจอกลับเรื่องแบบนี้หลแก เพราะมีช่วงหนึ่งที่เราไปไหนมาไหน กันแต่เราไม่ได้ไปแค่สองคน ก็จะมีเซนไปด้วย ซึ่งเฟย์ ที่เป้นแฟนเก่าฉันที่เป็นเพื่อนกับพวกเขาก็ได้มาเจอ แต่วันนั้นมีนไม่ได้ไป แต่มีเซนไป แล้วก็เพื่อนออีก 3-4 คน แต่เฟย์เห็นฉันกับเซน เลยคิดว่า ฉันกับเซนคบกัน เขาเลยไปถามมีน แต่เราก็เลิกกันไปนานแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมต้องมาคิดเล็กน้อยเรื่องพวกนี้ด้วย

     ทำไมความรักของฉันไม่เคยสมหวังเลยสักครั้ง ฉันไม่เคยเป็นคนที่โชคดีเลยในเรื่องของความรัก แต่เขาก็เล่นกับความรู้สึกของฉันเช่นกัน เขาคือคนที่ฉันยังคงเฝ้าดูอยู่ห่างๆ แล้วไม่เคยหายไปไหน มีเพียงแต่เขาที่ยังคง ไม่ลืมแฟนเก่า ฉันอยากเป็นคนนั้นบ้างจัง ทั้งหมดที่ฉันคอยอยู่ข้างๆ เขามาตลอด ฉันไม่เคยที่จะกล้าจะออกมาก่อน นอกจาก เขาจะไม่ต้องการ จุดยืนตรงนี้ ไม่มีใครอยากอยู่หลอก แต่ฉันเพียงแค่คิดว่าเขาจะรักฉันบ้าง เหมือนที่ฉันรักเขา เขาคิดอะไรบ้าง ฉันไม่เคยรู้ และไม่เข้าใจเลย ไม่ว่าจะยังไง เรื่องทั้งหมดตรงนี้ มันบอกให้ฉันควรพอได้แล้ว ถึงอยู่ไปก็ไม่ได้ทำให้เราสามารถ รักกันได้แบบคู่รักแบบ คนทั่วไป เก็บมันไว้เป็น ภาพในความทรงจำ เรื่องราวระหว่างเราสองคนก็คงพอ

ภาพในความทรงจำ

Comments are closed.