กว่าจะรู้เดียงสา รีวิวนิยาย

กว่าจะรู้เดียงสา รีวิวนิยาย

กว่าจะรู้เดียงสา

กว่าจะรู้เดียงสา รีวิวนิยาย โดยรายละเอียด ของเรื่องราวเด็กสาวและเด็กหนุ่มแรกรุ่น ที่ไม่รู้จักโลกภายนอก ไม่รู้เดียงสา

“ ความโง่เท่านั้นเอง  แว่นทิพย์โง่  ชยาเองก็โง่ ไม่คิดหน้าคิดหลัง คิดว่าตัวนั้นเก่งฉกาจ รู้จักโลก รู้เดียงสาแล้ว อายุเพิ่งเกินสิบไปไม่กี่ปี นึกว่าชาญฉลาดโลกเป็นหนักหนา ”

        กว่าจะรู้เดียงสา ผู้แต่งคือ โบตั๋น เรื่องราวของเด็กสาวและเด็กหนุ่มแรกรุ่น ที่ไม่รู้จักโลกภายนอก ไม่รู้เดียงสา

ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครชื่อ “แว่นทิพย์” สาวน้อยอายุ๑๖ ลูกผู้ดีเมืองเหนือ เธอคือลูกคุณหนูทุกกระเบียดนิ้ว คุณแม่ของเธอเลี้ยงเธอให้เป็นกุลสตรีลูกผู้ดีมีสกุล ตั้งแต่เธอจำความได้ เธอได้ยินแต่คำว่า ไม่อนุญาต จากคุณแม่เสมอมา แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ เปรียบดั่งสุภาษิตที่ว่า นกน้อยในกรงทอง เธอจึงเป็นสาวโสดใสบริสุทธิ์ แต่เมื่อแว่นทิพย์ได้เจอ “ชยา” ชายหนุ่มรูปหล่อต่างโรงเรียนดีกรีนักฟุตบอลดาวเด่นประจำจังหวัด

ทั้งสองตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แว่นทิพย์ไม่เคยได้คุยกับผู้ชายแปลกหน้าเชิงชู้สาว ชยาคือรักครั้งแรกของเธอ แต่ชยาไม่ใช่เด็กหนุ่มโสดบริสุทธิ์เหมือนแว่นทิพย์ เขารู้วิธีสยบเธอ เขาจึงสามารถเอาชนะความไม่เดียงสาเธอได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าเธอจะขัดๆขืนๆเขาในตอนแรกเริ่ม แต่สุดท้ายเขาก็ทำให้เธอเผลอไผลไปกับคำหวานและเมื่อเธอลิ้มรสในสัมพันธ์สวาทกับชยาแล้ว ทำให้เธอเตลิดไปเลยทีเดียว

ชยาก็เหมือนกันเขาติดใจรสชาติของมันเพราะเขาเคยมีประสบการณ์มาแล้วบ้างกับเรื่องพรรค์นี้ ทำให้ทั้งสองไม่ยับยั้งชั่งใจและเหตุการณ์พลิกผันเริ่มต้นจากตรงนี้ แว่นทิพย์เกิดตั้งท้องกับชยา และไม่รู้จะทำเช่นไร ด้วยความกลัวในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และเพราะทั้งสองได้คิดแล้วว่าไม่ว่ายังไงทางบ้านของทั้งสองฝ่ายคงไม่ยอมรับกันและกันง่ายๆ แม่ของแว่นทิพย์คงรับไม่ได้เป็นแน่ ถ้าหากลูกสาวที่เธอเลี้ยงมาให้เป็นผู้ดีจะมาทำเรื่องไม่งามตั้งท้องทั้งที่ยังเรียนไม่จบเช่นนี้

ทางบ้านของชยาก็คงบ่นด่าจนหูชาและคงไม่ยอมรับแว่นทิพย์เป็นลูกสะใภ้เป็นแน่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทั้งสองตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาเผชิญโชคชะตาที่กรุงเทพทั้งที่ยังเรียนไม่จบ ทำให้ไม่มีความรู้มากนัก และยังไม่เคยใช้ชีวิต ยังไม่เคยเจอโลกภายนอก ยังไม่เคยเจอผู้คนต่างหน้าต่างถิ่น จึงต้องมาเช่าห้องอยู่ในสลัม และต้องแยกกันทำงานเพื่อหาเงิน แว่นทิพย์ไปทำงานเป็นแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็ก

ที่นั่นเธอถูกสามีของนายจ้างข่มขืน ทั้งที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ ส่วนชยานั้น แรกเริ่มเขาไปทำงานที่ร้านเช่ารถจักรยานและย้ายไปทำที่ร้านขายแก๊ส เค้าติดเพื่อน ติดยาเสพติด ไม่ได้สนใจลูกเมีย หลังจากที่แว่นทิพย์หนีออกมาจากบ้านนายจ้างได้สักพัก ก็ซ้ำร้ายมาโดนพี่แฉล้มเจ้าของห้องเช่าในสลัม หลอกให้ไปทำงานในสโมสร ที่นั่นแว่นทิพย์ต้องคอยดูแลแขก และต้องนอนกับเสี่ยเจ้าของสโมสร

ส่วนชยานั้นก็หายหน้าไป แว่นทิพย์เริ่มคิดเอาได้ว่าชยาไม่สามารถดูแลรับผิดชอบตนและลูกได้ ทำให้แว่นทิพย์ต้องพึ่งตัวเอง หลังจากแว่นทิพย์คลอดลูกได้เพียงสองเดือน เธอก็เจอโชคร้ายยิ่งกว่าเดิม เธอถูกแฉล้มกับเฉลาหลอกขายตัวส่งไปที่ปักษ์ใต้แทนที่จะได้กลับบ้านที่เหนือ และเธอได้รู้ความจริงจากหนังสือพิมพ์ว่าที่ชยาหายไปเพราะเค้าติดยาเสพติดและดักปล้นคนถอนเงินที่หน้าธนาคาร เขาก่อเหตุจนถูกตำรวจยิงตาย แว่นทิพย์ต้องทำงานในซ่อง และเลี้ยงลูกในซ่อง แต่แล้วเธอกลับติดโรคจากแขกที่มาใช้บริการ

เจ้าของซ่องจึงตามหมอมาตรวจโรคและรักษา เธอจึงได้เจอกับหมอสุริยาอีกครั้ง เขาเป็นน้องชายของพี่สะใภ้ของแว่นทิพย์ เขาเคยชอบเธอแต่โดนคุณแม่ของเธอกีดกัน เพียงเพราะเขาเป็นลูกเจ๊กตระกูลไม่มีชื่อและไม่ใช่ผู้รากมากดีเท่านั้นเอง หลังจากที่ได้เจอกัน เธอจึงขอร้องให้หมอสุริยาพาลูกเธอหนีออกไปจากขุมนรกแห่งนี้ และส่งเด็กน้อยยังไม่รู้เดียงสาวัย๑ขวบคนนี้ไปให้พี่จักรทิพย์และพี่สุรีย์พรเลี้ยงแทนด้วย เลี้ยงอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ขอให้โตขึ้นมาอย่างคนเต็มคน ให้รู้เดียงสากับโลกให้มากกว่าเธอ อย่าให้โง่เง่า ไร้เดียงสาอย่างเธอเลย

และเธอรีบกำชับว่าลูกของเธออย่าให้คุณแม่เลี้ยงเด็ดขาด สุดท้ายหมอก็พาใยทิพย์ลูกสาวของเธอหนีออกมาได้ ที่ผ่านมาเธอยอมทนทุกข์เพื่อหาทางให้ลูกของเธอพ้นจากนรกขุมนี้ และเมื่อหมอทำสำเร็จ เธอจึงหาทางพ้นทุกข์และความเจ็บปวดของเธอเอง ตายเสียดีกว่า เธอคิดอย่างนั้นและลงมือทำสำเร็จ จุดจบของแว่นทิพย์คือความตาย แต่หากเพียงแค่เธอรู้จักโลกภายนอกบ้าง ใช้ชีวิตได้ตามวัย รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคน ป่านนี้เธอคงมีชีวิตที่ดีตามที่ควรจะเป็น ชีวิตของแว่นทิพย์ตั้งแต่หนีออกจากบ้านมาก็เจอแต่เรื่องเลวร้ายตลอดไม่หยุดหย่อน กว่าจะรู้เดียงสา ก็สายไปเสียแล้ว

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

สนับสนุบโดย worldsportscafe.com

o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o

Comments are closed.