ตอนที่ 5 friends with benefit ไม่ใช่แค่เพื่อน (ความจริงของทั้งหมด)

ตอนที่ 5 friends with benefit ไม่ใช่แค่เพื่อน (ความจริงของทั้งหมด)

   ไม่ได้รับข่าว หรือการติดต่ออะไรใดๆทั้งสิ้น หลังจากวันนั้นมา แต่หลังจากนั่นก็มีปัญหา ตามมาเรื่อยๆ โดยที่ฉันต้องรับมือกับเรื่องแบบนี้ คนเดียว มันคงเป็นการบอก ความจริงของทั้งหมด นัยๆว่านี่แหละเขาไม่ได้สนใจเราเลย เขาไม่สนใจใครนอกจากตัวเอง สุดท้ายแล้ว มันก็แค่เรื่องโกหกทั้งหมด

    เพราะ ความจริงของทั้งหมด นั่นได้มีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่ เขารู้เรื่องเรามาโดยตลอด แต่มีตอนหนึ่งที่เหมือนจะบอกอะไรกับเรา แต่ก็ไม่ยอมบอก เหมือนมีอะไรจะพูด แต่ก็เหมือนจะพูดไม่ได้ เพราะมีบางคนห้ามไว้ ห้ามไม่ให้พูด ฉันเลยไม่ได้รับรู้เรื่องนั่น พอจนมีเรื่องหลายๆ อย่างตอนนี้ กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างมารวมกัน รวมถึงเรื่องที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันเลวร้ายเกินกว่าที่ฉันจะรับมันไว้ และรับมันไม่ได้จริงๆ กับเรื่องๆนี้

    เขาบอกฉันมาว่า มีนมีใครอีกคนอยู่แล้ว แล้วเขาต้องรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้น แล้วฉันละ เรื่องนี้มันต้องทำให้ควรรู้สึกยังไงต่อ น้ำตาที่เอ่อคลอ ออกมา สมน้ำหน้าตัวเองที่ไม่ถอยออกมาตั้งแต่ทีแรก หรือ ไม่ควรยุ่งตั้งแต่ทีแรก เขาทำกับฉันได้ยังไง ทำไมถึงทำกันลง ถ้าจะไม่แคร์กัน แต่เรื่อง นี้มันรุ่นแรงเกินไปจริง

ฉันนั่งคิดอะไรไปเรื่อยคนเดียว อยู่ที่หลังบ้าน วันนี้เป็นวันหยุดที่รู้สึกเหนื่อยมากอยากพาตัวเองไปที่ไหนสักที่ไกล

กริ๊งงงงง…  //สายน้ำโทรมาหาฉัน

‘ว่าไงแก’

‘ฉันจะกลับบ้านนะ ไปเที่ยวกับ’

‘ไปสิ ที่ไหนดี’

‘ไปทะเล เกาะ….’

‘อืม ไปสิกำลังอยากไปพอดี’

‘ได้ เดี๋ยวเย็นนี้ฉันเข้าไปนอนบ้านแกนะ’

‘อืม ได้ เจอกัน’

‘โอเค’

     เช้าวันที่ออกเดินทางไปทะเล

     เราไปกันสองคนเหมือนเดิมฉันชอบนะเวลาไปไหนมาไหน คนน้อยๆรู้สึกไม่วุ่นวายและตกลงกันง่ายด้วย ไม่เถียงกันนาน เราได้จองที่พักไว้ 3วัน2คืน เหมาะกับการไปพักผ่อนที่สุด เรานั่งเรือข้ามฝั่งมายังเกาะแล้วเข้าเช็คอินที่พักก่อน แล้วพักผ่อนกันสักแปบ แล้วค่อยไปเดี่ยวเที่ยวกันต่อ คืนนี้เราจะไปแฮงค์เอาท์กัน ที่ร้านที่เราชอบมาเวลามาที่นี่ นั่งฟังเพลงเพลินๆ นั่งดื่มนั่งทานอาหารกันเช่นเดิม 

ตกเย็นเราก็เตรียมตัวไปยังร้านนั่งชิล

“มากี่ท่านครับ”

“สองค่ะ”

“มีข้างหน้าเวทีนะครับ”

“ได้ค่ะ”

“เชิญทางนี้ครับ”

    เราก็เดินตามพนักงานแล้วก็มานั่งข้างหน้าเลย แต่ระหว่างเดินไปก็

“โอ๊ย…”

“ขอโทษครับ… เป็นอะไรไหม..”

“…..เอ่อ มะไม่เป็นไรค่ะ”

    ฉันเจอผู้ชายคนหนึ่งเขาดูดีมากจริงๆ สูงขาว หุ่นดี ผมยาว เท่ๆหน่อย ลักษณะแบบนี้น่าจะเป็นพวกนักดนตรีแน่ๆ

      ระหว่างที่นั่งคิดอะไรไปเรื่อย ต่อให้มาไกลแค่ไหนก็ไม่ช่วยให้ได้ความสบายใจขึ้นเลย ไม่เลย ในความคิดยังคงรู้สึกหน่วง ไปหมด ทั้งใจ ทั้งกาย ฉันไม่สามารถ ทำให้เขาออกมาจากความคิดได้เลย บวกกับปัญหาทั้งหมดที่ไก้แบกรับมันเอาไว้ ทำไมมันมีแค่ฉันที่ยังคงคิดถึงเขาและเรื่องเขา อยู่ตลอด ฉันอาจจะเป็นคนที่คิดมามากไปเอง ระหว่างที่สายน้ำกำลังดื่มด่ำ กับเครื่องดื่ม เสียงเพลง และบรรยากาศ ฉันก็ควรสลัดเรื่องนี้ออกจากหัวออกไปได้แล้ว ฉันเลยลุกออกมา สูดอากาศข้างนอกหน่อย เพราะข้างๆ ร้านเป็นริมทะเล เสียงเพลงจากร้านที่ยังได้ยินอยู่เป็นระยะ เริ่มเบาลงแต่กลับกัน เสียงคลื่นทะเล นั่นดังชัดเจนขึ้น แสงไฟที่มีเป็นระยะ มีผู้คนบ้างพอประมาณ ฉันก็ได้แต่นั่งริมหาด กะว่านั่งสักแปบแล้วค่อยเข้าไปหาสายน้ำ

     แล้วสายตาฉันก็หันไปเห็นผู้ชายคนที่ฉันชนตอนเข้าร้านมา เขาก็มาแล้วก็ยิ้มให้ฉันเลยยิ้มกลับ แล้วเขาก็เดินตรงมาที่ฉัน

“เมื่อกี้ เจ็บตรงไหนหรืออป่าวครับ”

“อ่อ ไม่ค่ะ”

“มากันแค่สองคนหรอครับ”

“ใช่คะ เที่ยวน้อยๆสบายใจ แล้วก็ไม่วุ่นวายดี เหมาะกับมาพักผ่อน”

“ก็จริงนะครับ ของผมมากันหลายคนจะวุ่นวายหน่อย”

“ใช่ค่ะ…เดี๋ยวขอตัวไปหาเพื่อนก่อนนะคะ ออกมานานแล้ว”

“โอเคครับ”

        หลังจากที่ฉันพูดจบก็เดินแยกออกมาเลย เพราะตอนนี้ไม่กล้าที่จะคุยอะไรกับใครมาก ในหัวยังคิดถึงเรื่องคนบางคนอยู่ทั้งวัน ทุกเวลา ซึ่งคนที่คิดมากมีแค่ฉันคนเดียว เมื่อไหร่ใจจะเข้มแข็งพอ ที่จะมีกำแพงสร้างขึ้นมาเพื่อนกั้นให้คนๆนี้ ออกไปจากใจสักที อีกไม่นานฉันจะต้องกลับมาเป็นคนที่เข้มแข็งอีกให้ได้ กลับไปคราวนี้ ฉันจะไม่ใช่คนที่อ่อนแอคนนั้นอีกแน่นอน แล้วนี่อาจจะเป็นสัญญาณของความเด็ดขาดสำหรับเขาที่ฉันสร้างขึ้นมา พอกันที

         เช้าวันใหม่ที่ได้เวลาเดินทางกลับไปอยู่จุดเดิน กลับไปทำงาน ไปใช้ชีวิตแบบเดินที่ต้องทำให้ดีกว่าเดิม อะไรที่ปั่นทอนหัวใจควรหยุดทำร้ายหัวใจตัวเองสักที ระหว่างนี้เราสองคนก็ทางอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ ถ้าทานเสร็จเราก็จะเดินทางกลับกันเลย  แต่ก็แอบหันไปเจอผู้ชายคนเมื่อคืนอีก ทำไมอะไรจะบังเอิญอะไรขนาดนั้นนะ เขาหันมายิ้มให้ฉัน ฉันก็ทำเพียงยิ้มตอบกลับ แต่เพื่อนตัวดีกลับมองเห็นว่าฉันยิ้มให้เขาเลยเกิดการแซวขึ้นจนได้

“ฮั่นแน่…..เมื่อคืนที่หายไปนี่แอบไปคุยกับหนุ่มมาหรอจ้ะคุณเพื่อน”

“บังเอิญน่า ไม่มีอะไรหรอก เขาก็แค่ถามทักปกติ ที่ชนฉันไม่มีอะไรหรอก กินเสร็จหรือยังจะได้กลับกันซักที”

“ค่าๆ ไม่มีอะไรก็ไม่มี เสร็จแล้วค่ะแม่”

“ไปรอที่ห้องนะ”

“โอเค”

       สุดท้ายแล้ว ความจริงของทั้งหมด ที่ฉันได้รู้ก็ทำให้ฉันตาสว่างแล้วต้องเดินต่อไปข้างหน้า โดยที่ตัดเขาออกไปให้ได้โดยเร็ววันให้ได้ แล้วจะไม่กลับไปเจ็บปวดอีกแน่นอน

ความจริงของทั้งหมด

Comments are closed.